การทำหมันแมว
การผ่าตัดทำหมันแมว (ดีเซ็กซ์ซิ่ง) เป็นขั้นตอนสำคัญในการเลี้ยงลูกแมวซึ่งจะช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของแมวและป้องกันโรคต่างๆ เราจะอธิบายเพิ่มเติมในบทความนี้เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญ ทำไมเจ้าของแมวควรพิจารณาถึงการผ่าตัดทำหมันแมว พร้อมตอบข้อสงสัย เช่น ทำไมเราควรทำหมันแมวตอนเด็กๆ และการทำหมันส่งผลต่อสุขภาพของแมวอย่างไร?
ทำไมคุณจึงควรทำหมันแมวของคุณ?
1) การทำหมันแมวมีส่วนช่วยให้เขามีสุขภาพที่ดีและมีอายุที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
แมวที่ทำหมันจะมีอายุยืนยาวกว่าแมวที่ไม่ได้รับการทำหมัน จากการศึกษาที่โรงพยาบาลสัตว์เลี้ยง Banfield ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ทำการทดลองกับแมวจำนวน 460,000 ตัว ผลการวิจัยพบว่าแมวตัวเมียที่ทำหมันจะมีอายุยืนยาวกว่าแมวที่ไม่ถูกทำหมันถึง 39% และพบอัตราการมีอายุยืนในแมวตัวผู้อยู่ที่ 62%
นอกจากนี้การทำหมันแมวยังช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของแมวของคุณอีกด้วย เช่น เมื่อแมวตัวเมียได้รับการทำหมัน พวกเขาจะไม่แสดงอาการหรือสัญญาณใดๆ เช่น การส่งเสียงร้อง หรือการพยายามหลบหนีเพื่อตามหาตัวผู้ รวมถึงการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจสร้างความปวดหัวให้กับเจ้าของได้ แถมยังอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในช่วงระหว่างการคลอดลูกแมว ซึ่งต้องใช้วิธีการผ่าตัดฉุกเฉินเข้าร่วม
การทำหมันตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมน้ำนม โรคเต้านมอักเสบ และไพโอเมตราให้กับแมวตัวเมียได้ อีกทั้งพวกเขาจะมีความสุขในการใช้ชีวิตมายิ่งขึ้นหลังจากได้รับการทำหมัน ไม่เป็นความจริงที่ผู้หญิงจะต้องตั้งครรภ์อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ไม่มีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ความเชื่อนี้ได้ เมื่อแมวตัวเมียได้รับการทำหมันแล้ว พวกเขาไม่รู้สึกถึงความอยากในการมีลูก แถมยังใช้ชีวิตแบบปกติและมีความสุขได้อีกด้วย
2) การทำหมันมีส่วนช่วยในการลดค่ามช้จ่ายการเลี้ยงดูได้
การทำหมันจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพกับสัตวแพทย์ในอนาคตได้อย่างมาก การทำหมันตั้งแต่เนิ่นๆ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ ในแมว เช่น มะเร็งต่อมน้ำนม หรือการติดเชื้อในมดลูก การรักษาโรคเหล่านี้มีราคาค่อนข้างสูงสำหรับเจ้าของและอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงอีกด้วย หรือกรณีที่แมวที่ไม่ได้ทำหมัน อาจทำให้พวกเขามีนิสัยก้าวร้าวเกิดการทะเลาะกันกับแมวตัวอื่นได้
3) ลดจำนวนแมวจรจัดได้
จากข้อมูลของ Animal Rescue Profesional แมวคู่หนึ่งภายใน 7 ปีสามารถสร้างลูกแมวได้ 420,000 ตัว! ทำให้เกิดแมวจรจัดเป็นจำนวนมากและสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่โรคไปยังสัตว์เลี้ยงได้ เช่น ไข้หวัดแมว โรคท้องเสียจากการติดเชื้อ FIV มะเร็งเม็ดเลือดขาวจากไวรัส และ FIP ที่อันตรายถึงชีวิต
ดังนั้นเมื่อคุณมีแมว และไม่ได้มีความตั้งใจอยากมีลูกแมวเพิ่ม คุณควรพาแมวเข้ารับการทำหมันโดยเร็วที่สุด
ควรทำหมันแมวในช่วงอายุเท่าไหร่?
เราขอแนะนำให้คุณทำหมันแมวตัวเมียตั้งแต่อายุ 6 เดือน เพราะเป็นช่วงอายุที่แมวขของคุณจะได้รับวีคซีนทุกชนิดครบแล้ว และโตพอที่จะรับการผ่าตัดและการดมยาสลบ ในช่วงอายุ 6 เดือนนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาสามารถเริ่มติดสัดได้ ซึ่งการทำหมันตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้ลดโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ทันท่วงที
เมื่อลูกแมวของคุณอายุครบ 6 เดือน คุณควรพาพวกเขาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อทำความเข้าใจถึงสุขภาพของแมวคุณมากขึ้น สัตวแพทย์จะตรวจสุขภาพแมวของคุณ ตรวจประวัติการฉีดวัคซีน ตรวจดูความพร้อมในการเข้ารับผ่าตัดทำหมัน และอธิบายขั้นตอนการผ่าตัดโดยละเอียดให้คุณฟัง
จริงๆ แล้วการทำหมันแมวคืออะไร?
การทำหมันคือการผ่าตัดเอารังไข่และมดลูกออก ซึ่งหมายความว่าตัวเมียจะไม่สามารถติดสัดและตั้งครรภ์ได้ เป็นการผ่าตัดตามปกติที่ดำเนินการภายใต้การดมยาสลบ เราทำการผ่าตัดในห้องปลอดเชื้อ 100% (ซึ่งหมายความว่าไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ) พร้อมด้วยยาชาที่ปลอดภัยต่อร่างกายเขามากที่สุด
การทำหมันที่โรงพยาบาลสัตว์ ด็อกเตอร์ส์ อินเตอร์เนชั่นแนล
ก่อนการผ่าตัดเราจะทำการตรวจเลือดเพื่อให้แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีสุขภาพแข็งแรงและพร้อมต่อการเข้ารับการผ่าตัด เราจะให้ยาแก้ปวดและให้น้ำเกลือในระหว่างการผ่าตัดและพักฟื้น หลังจากนั้นจะทำการกรีดแผลขนาดเล็กใต้สะดือ (แนวกึ่งกลาง) หลังจากนั้นจะทำการเย็บปิดแผลด้วยรูปแบบการเย็บภายในผิวหนัง ซึ่งหมายความว่าไม่มีการเย็บภายนอกและด้ายจะสามารถละลายไปได้ด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่ของเราจะคอยติดตามอาการหลังการผ่าตัดอย่างใกล้ชิดจนกว่าพวกเขาจะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย
ก่อนและหลังทำหมันแมว ควรทำอย่างไร?
a. ก่อนการผ่าตัดทำหมัน
1. ตรวจสอบประวัติการรับวัคซีน
คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแมวของคุณได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนตามกำหนดเวลาแล้ว
2. เลือกโรงพยาบาลสัตว์ที่มีชื่อเสียงและเชื่อถือได้
คุณสามารถหาข้อมูลและตรวจสอบข้อมูลโรงพยาบาลสัตว์ว่ามีความน่าเชื่อถือและมีข้อมูลรับรองที่เพียงพอต่อการไว้ใจให้พวกเขาทำหมันแมวของคุณ หรือจะถามคำถามเกี่ยวกับการผ่าตัด เช่น แมวของคุณจะได้รับ IV Fluid Therapy ระหว่างการผ่าตัดหรือไม่? แพทย์จะทำการตรวจเลือดก่อนดมยาสลบหรือไม่? การผ่าตัดทำในห้องปลอดเชื้อหรือไม่? แมวของคุณจะได้รับยาแก้ปวดหรือไม่? แผลมีขนาดเท่าไร? เวลาในการฟื้นตัวคืออะไร? แมวของคุณจะตื่นตัวเต็มที่เมื่อออกจากโรงพยาบาลหรือไม่?
ปัญหาที่พบบ่อยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในแมวตัวเมียคือ “กลุ่มอาการเศษรังไข่” ซึ่งหมายความว่ารังไข่ไม่ได้ถูกเอาออกทั้งหมด แมวตัวเมียที่มีอาการดังกล่าว จะมีอาการร้อนวูบวาบ แต่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้
ในบางกรณี หากการผ่าตัดตามปกติไม่ได้รับการผ่าตัดอย่างเหมาะสม จะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อที่บาดแผล เย็บแผลแตก เยื่อบุช่องท้องอักเสบ (การติดเชื้อในช่องท้อง) สัตว์เลี้ยงจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์อย่างเร่งด่วน และมักจะต้องได้รับการผ่าตัดซ้ำอีกครั้ง
3. วิธีเตรียมแมวของคุณให้พร้อมสำหรับการผ่าตัดทำหมัน
- ก่อนการผ่าตัดตรวจสอบให้แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงของคุณได้ทำการชำระร่างกายอย่างสะอาดแล้วเพราะจะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนในการสมานแผล
- ทำการงดให้อาหารเป็นเวลา 8 ถึง 12 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด เพราะเมื่อแมวท้องว่างจะป้องกันการอาเจียนที่อาจเป็นอันตรายระหว่างการดมยาสลบ แต่การให้น้ำในคืนก่อนการผ่าตัดสามารถทำได้เป็นปกติ
b. หลังจากผ่าตัดทำหมัน
1. หลังจากการผ่าตัดที่โรงพยาบาลของเรา แมวของคุณจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและระมัดระวังโดยแพทย์และพยาบาลของเรา จนกว่ามันจะตื่นตัวเต็มที่และพร้อมที่จะกลับบ้าน โดยส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านได้เวลา 5 โมงเย็น
2. หลังจากกลับถึงบ้าน ให้เตรียมบริเวณสำหรับสัตว์เลี้ยงของคุณที่ปลอดภัยและไม่วุ่นวาย อย่ารบกวนสัตว์เลี้ยงของคุณและอย่าปล่อยให้สัตว์เล่นกับเด็กเล่นกันในวันหลังจากได้รับการผ่าตัด ให้อาหารครึ่งหนึ่งของปริมาณปกติ เพราะแมวของคุณอาจหิวได้หลังผ่าตัด แต่ก็อาจจะยังไม่ยอมกินอาหารซึ่งเป็นเรื่องปกติ โดยส่วนใหญ่แมวจะกลับมามีอาการเป็นปกติในวันรุ่งขึ้น
3. ตรวจสอบบริเวณแผลเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาการบวมหรือของเหลวใดๆ ไหลออกมาจากแผล ทางที่ดีอย่าสัมผัสแผลหลังผ่าตัด ห้ามทาครีมหรือผ้าพันแผลใดๆ หากมีข้อสงสัย ติดต่อสอบถามสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้
4. คุณจะได้รับตารางการตรวจสุขภาพหลังการผ่าตัด
5. ให้สัตว์เลี้ยงของคุณใส่ปลอดคอบัสเตอร์ ไว้ตลอดเวลาหลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาเลียแผล เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ได้
6. อย่าอาบน้ำแมวจนกว่าจะได้รับการตรวจหลังการผ่าตัดครั้งสุดท้าย เมื่อแพทย์ถอดปลอกคอออก
7. ที่โรงพยาบาลสัตว์ แอนนิมอล ด็อกเตอร์ส์ อินเตอร์เนชั่นแนล คุณจะได้รับคำแนะนำอย่างละเอียด และแพทย์ของเรายินดีตอบทุกคำถามเสมอ เราจะทำการติดตามอาการหลังผ่า เพื่อให้แน่ใจว่าคนไข้ของเราฟื้นตัวได้ดี
